ทำไมสัญญาณเต็มเปี่ยม แต่โทรออกไม่ได้ !!!

ปัญหาโลกแตกที่ทุกคนน่าจะเคยเจอ ไม่ว่าในรูปแบบของการโทร ไม่ออก กดโทรออกแล้วรอนานมากกว่าจะต่อติด หรือโทรแล้วมีขึ้นเตือน ที่หน้าจอมือถือว่า “Network Busy” อยู่นั่นแหละ

สาเหตุหลักของเจ้าอาการที่น่ารำคาญเหล่านี้ส่วนมากก็คือ การที่ช่อง สัญญาณ (Traffic Channel) เต็ม เนื่องด้วยเรื่องของช่องสัญญาณ นี้ก็ถือว่าเป็น ส่วนหนึ่งของเรื่องความถี่ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามา ทำความรู้จักทั้งสองอย่าง ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
เวลาที่เราพูดถึงความถี่ของมือถือ เราก็พูดกันว่า 900 1800 1900 แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกคนในระบบ เดียวกันไม่ได้ใช้ความถี่เดียวกันหมดพร้อมๆ กันหรอกครับ มีหวังกวนกันตาย ตัวอย่างง่ายๆ ถ้าใครที่เล่นรถประป๋อง (รถบังคับวิทยุ) พร้อมกันกับเพื่อนหลายๆ คนคงจะรู้ดีว่า ถ้าใช้รถที่มีความถี่ของที่บังคับเดียวกัน (เช่น 27MHz) มาเล่นใกล้ๆ กันนั้น มันกวนกันแหลก แค่ไหน เพราะว่ารถนั้นไม่สามารถแยกแยะ ออกว่า ที่บังคับอันไหนกันแน่ที่สั่งมันอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวากันแน่
ในทางกลับกันของกรณีมือถือ ที่เค้าว่ากันว่าอยู่ในระบบเดียวกัน ความถี่ เดียวกันแท้ๆ (เช่น 900MHz) ไฉนเลยกลับเดินไปเดินมาในเมืองได้เป็นล้านๆ เครื่อง แถมยังโทรพร้อมกัน ในระยะใกล้ๆ กัน ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ... ทำไมมันเป็นอย่างนั้นล่ะ ?

ความถี่ของมือถือแบ่งเป็นหลายช่อง แถมยังแบ่งเป็น ชุดล่าง (Downlink) กับ ชุดบน (Up Link) อีกต่างหากDownlink นั้นก็คือ ความถี่ที่สถานีฐาน (Base station/Cell site) ส่งไปหาเครื่องมือถือ ผมโมเมเอาเองว่าที่เค้าตั้งชื่ออย่างนี้เพราะสถานีฐานมักจะตั้งอยู่สูงกว่ามือถือ เพราะฉะนั้นการส่งสัญญาณไปหาก็เหมือนการส่งลงไป (จากที่สูงลงไปต่ำ) Uplink ก็คือความถี่ที่มือถือใช้ส่งกลับขึ้นไปหาสถานีฐานนั่นเองระหว่างความถี่ของ Downlink กับ Uplink จะไม่มีการกวนกันครับ เพราะว่าทั้งคู่อยู่ในคนละช่วงกัน แต่ความถี่ในประเภทเดียวกันนั้น ถ้ามีการใช้ใกล้ๆ กันก็สามารถจะก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน (Interference) ได้ครับ เช่น ความถี่ระหว่างสถานีฐานสองแห่ง ถ้าทั้งคู่ใช้ความถี่เดียวกัน (Co-Channel) หรือใกล้เคียงกัน ก็อาจจะก่อให้เกิดความปวนแปรของสัญญาณ หนึ่งในผลที่เรามักประสบกันก็อย่างการได้ยินเสียงพูดขาดๆ หายเวลาใช้มือถือนั่นแหละครับGSM900 ความถี่ Downlink 935-960MHz Uplink 890-915MHz, GSM1800 ความถี่ Downlink 1805-1880MHz Uplink 1710-1785MHz ส่วน GSM1900 ความถี่ Downlink1930-1990MHz Uplink 1850-1910MHzความถี่ช่องหนึ่ง (หรือ 1 ARFCN) นั้นมีขนาดช่องละ 200KHz หรือง่ายๆ กว่านั้นคือใน 1MHz จะมีความถี่เท่ากับ 5 ช่อง (200KHz x 5 Channel = 1MHz) โดยในความถี่แต่ละช่องนั้นยังสามารถแบ่งย่อยไปได้อีกเป็น 8 ช่องย่อย (Time Slot) ซึ่ง 1 Time Slot นี่เองสามารถจะรองรับคนโทรศัพท์ได้หนึ่งคนเพราะฉะนั้นถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ให้บริการของ Site หนึ่งซึ่งมีความถี่ 5 ความถี่ ก็แปลว่าจะมีคนสามารถโทรศัพท์ได้พร้อมๆ กันทีละ 5 x 8 = 40 คนนั่นเอง ทีนี้ถ้าคุณเป็นคนที่ 41 แล้วกดโทรเข้าไป ก็จะไม่สามารถโทรได้ เพราะว่าช่องสัญญาณในขณะนั้นเต็มอยู่ ไม่ว่าจะพยายามกดโทรรัวๆ ยังไง ก็ไม่เกี่ยวหรอกครับ ยังไงต้องรอให้คนใดคนหนึ่งในนั้นวางสายไปเสียก่อน เราจึงเข้าไปใช้ได้

ส่วนจำนวนความกว้างของช่องความถี่ที่มี (Bandwidth) เอไอเอสมี 17.5MHz จีเอสเอ็ม1800 มี12.5MHz ดีแทคมี 50MHz ทีเอออเร้นจ์ 12.5MHz และไทยโมบาย1900 มี 12.5MHzเมื่อมาเรามาดูที่จำนวนของความถี่ที่แต่ละค่ายมี จะเห็นได้ว่าดีแทคค่อนข้างได้เปรียบกว่าเจ้าอื่นอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำนวนช่องความถี่ที่มากกว่านั้นจะทำให้เจ้าอื่นๆ ด้อยกว่านะครับ เพราะในพื้นที่หนึ่งๆนั้น สามารถใส่ความถี่ลงไปได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น ด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์ระบบนั่นเอง

แต่ดีแทคก็จะมีผลพลอยได้จากการที่มีการนำความถี่กลับมาใช้ (Frequency Re-Use) ต่ำกว่า ซึ่งทำให้มีโอกาสที่สัญญาณกวนกันน้อยกว่าคนอื่น ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของคนที่จัดการกับความถี่ (Frequency Planner หรือ Radio Network Engineer) ด้วย


 
 
ระวัง!!!! มือถือติดกล้องดิจิตอล อาจนำไปใช้ ผิดวัตถุประสงค์
ระวัง เล่ห์กลในการฉกมือถือของพวกมิจฉาชีพ พวกมันทำกันหลายครั้งแล้ว
สำหรับหนุ่มๆที่จะไปเดินสะพานเหล็ก
เรื่องของคลื่นในมือถือ "คลื่นเต็มแต่โทรไม่ติด"
อยู่ไกลแค่ไหนจึงปลอดภัยจากการจาม
กิ๊ก มันคืออะไรกันนะ อยากรู้เข้าชมเลย...
แจกฟรีค่ะ เสียงเรียก Poly.zipและ MMF.zip

แล้วจะนำเรื่องดีๆมาลงให้ใหม่ในโอกาสหน้า
 

System Requirement :: Internet Explorer 5.5+ or Netscape Navigator 7.0+ | 1024x768 Resolution
:: LastUpdate 8 SEP 2004 ::
Copyright ®2004 Hosting & Bandwidth powered by www.timecites.com
ติดต่อเรา Yamom33@hotmail.com